วิชชาสาม VS โรคจิตเภท ข้อสังเกตนะคะ 1. มีสัญญาณเตือนเหล่านี้ในขณะนั่งสมาธิหรือไม่ เช่น เกิดปิติ เกิดโอภาส ซึ่งเป็นความซาบซึ้งทางจิตมิใช่การกระทำหรือการแสดงออก เทียบกับ การนั่งหัวเราะคนเดียวอันเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ออกมา 2. เสียงวิญญาณที่ได้ยินนั้น มีตัวตนไหม เช่น ได้ยินนกร้องแล้วฟังภาษานกออก นี่คือภาษาใจ อันเป็นภาษากลางของเหล่าสรรพสัตว์ทั้งปวง ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่สัตว์ไปฟ้องว่าเราฆ่ามัน มันจะฟ้องเป็นภาษากลาง ที่เราสามารถเข้าใจได้ ดังนั้น เสียงวิญญาณนั้นเป็นเสียงอะไร เช่นเสียงนก เสียงกุมารทอง เสียงสัมพะเวสี ต้องระบุรู้ได้ถึงต้นกำเนิดเสียง จึงจะมิใช่โรคจิตเภท 3.อาการเห็นด้วยตาทิพย์นั้น มักจะเห็นตอนสลึมสลือใกล้หลับ หรือ ตอนที่กำลังใกล้ตื่น หรือ เห็นตอนตื่นโดยที่คิดว่าคนอื่นก็มองเห็นเหมือนกับเรา (จริงๆ คนอื่นมองไม่เห็น แต่เราเห็นคนเดียวแล้วไม่ได้เอะใจอะไรเพราะนึกว่าคนอื่นเห็นเหมือนกันเช่นคนรอคิวตามหัวโค้งซึ่งคือคนตายที่หัวโค้งถนน) ส่วน อาการจิตเภทนั้น จะเห็นวิญญาณตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอันใด วิญญาณจะอยู่ด้วยตลอดเวลาเพราะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขานะคะ
อืมมมม....ก้จรีงนร๊าาะมั๊ยยเถียง แถมไอ่เราก้บ้าเสียด้วยจิ่...ก้ต้องกินริสก่อนนอนสท่ำเสมอ แต่ก้ยังขลุกกะการวิปัสนาอยุ่เรื่อย แต่ผลช่วงปัจจุบันนี้รุ้วสึกดีขึ้นเยอะ อาจเพราะวุฒิภาวะที่ตามวัย กะการอะไร ก้รุ้วสึก ละ ปลง ปล่อยวาง พิจารณาไปตามเนื้อผ้า จิตใจความคิดต่างๆนานาก้สงบขึ้นก่าแต่ะก่อนเยอะ...... สู้ๆ
สู้สู้ค่ะ ต้องข้ามพ้นความบ้าก่อนจึงจะทราบว่าความสำเร็จมันเป็นอย่างไรค่ะ และเห็นด้วยว่า วุฒิภาวะจะช่วยส่งเสริมสภาวะธรรมค่ะ สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ