#คนที่อยากไปนิพพานทำยังไง รวมความว่า #มหาสติปัฏฐานสูตร ที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำ ท่านบอกให้หวังผล ๒ อย่าง ไม่ได้หวังพระโสดาบันหรือพระสกิทาคามี ให้หวังเฉพาะพระอนาคามีกับพระอรหันต์ ฉะนั้น บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท การหวังอย่างนี้หวังได้แต่ผลมันจะเกิดยาก ก็อย่าประมาทคิดว่าคนทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ทั้งหมดไม่สามารถเป็นพระอรหันต์ ถ้าคิดอย่างนี้ผิด เพราะความเป็นพระอรหันต์มีได้ ๒ ตอน ▪️ #ตอนแรก ขณะที่ทรงชีวิตอยู่ ทำงานทำการได้ พูดได้ เดินได้ไหนมาไหนก็ไปได้ ตอนนี้ตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานก็ได้ แต่รู้สึกว่าจะเป็นการปฏิบัติที่ยากหน่อยเพราะต้องอาศัยบารมี ถ้าบารมีเข้มข้นก็ไม่หนัก ▪️ #ตอนนี้มีอีกตอนที่เป็นพระอรหันต์กันง่ายและไปนิพพานเป็นกันเยอะ #นั่นคือตอนป่วยแล้วก็ใกล้จะตาย ป่วยเพื่อที่จะตาย ป่วยเพื่อที่จะตายนี่มันมีทุกขเวทนาอย่างหนัก คำว่าเป็นสุขจะไม่มีในขณะนั้นเลย มันจะมีอาการเป็นทุกข์ทุกจุด อาศัยที่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทฟังคำแนะนำจากพระบ้าง จากเพื่อนฆราวาสกันบ้างที่มีความรู้ อ่านหนังสือบ้าง ดูตัวอย่างบ้าง ดูประวัติต่างๆ บ้าง ก็มีความรู้สึกว่าการเกิดเป็นมนุษย์มันเป็นทุกข์ไม่ดี การเกิดในอบายภูมิมีทุกข์ใหญ่ไม่ดี แล้วก็ส่วนที่ดีจริงๆ ก็คือพระนิพพาน สวรรค์และพรหมโลกก็ไม่ดี ดีน่ะดีแต่ไม่นาน จิตเราต้องการนิพพาน คำว่าจิตต้องการนิพพานใช้เวลาแบบไหน ใช้เวลาง่ายๆ เวลาก่อนที่จะหลับศีรษะถึงหมอน ขณะนั้นตาหลับจิตมันยังไม่หลับ #ก็คิดตามความเป็นจริงว่าการเกิดในโลกมนุษย์มันเป็นทุกข์ #เราไม่ต้องการมันอีก #เป็นเทวดาหรือพรหมก็เป็นสุขชั่วคราว เราไม่ต้องการมันอีก #เราต้องการพระนิพพาน ℹ️...คนที่จะไปนิพพานทำยังไง คือ ๑. ให้ #ทาน ตามกำลังที่จะพึงให้ได้ เป็นการ #ตัดโลภะ ความโลภ ๒. รักษา #ศีล คือเมตตา กรุณา ๒ ตัว เป็นการค่อยๆ #ตัดโทสะ ความโกรธ ๓. #ไม่ติดในความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของโลก เป็นการ #ตัดโมหะ ความหลง เราคิดในใจว่าขึ้นชื่อว่าความโลภอยากได้ทรัพย์สมบัติของคนอื่นจะไม่มีในเรา การประกาศตัวเป็นศัตรูกับใครจะไม่มีในเรา จะหลงติดในร่างกายว่าร่างกายเป็นเราเป็นของเรา ร่างกายไม่ตายจะไม่มีในเรา เราจะปล่อยไปตามสภาพ ตายเมื่อไรขอไปนิพพานเมื่อนั้น เอาอย่างนี้สักวันละ ๒ นาทีก็ได้แต่ให้ทุกวัน คือว่าไม่ต้องนึกอย่างที่พูดเสมอไปให้คิดอย่างเดียวว่าเราจะไม่โลภไม่แย่งเขา ไม่โกงเขา คำว่า "โลภ" นี่ขยันหมั่นเพียรเขาไม่ถือว่าโลภ เป็นสัมมาอาชีวะ เราจะไม่คดโกงไม่ขโมยของใคร หนึ่ง ตัดความโลภอย่างหยาบ สอง เราจะทรงศีลเพราะอาศัยเมตตากรุณา ๒ อย่างควบคุม เป็นการค่อยๆ ตัดความโกรธ ให้เห็นว่าร่างกายพังแน่ เราก็ไม่ต้องการมันอีกเป็นการตัดความหลง ค่อยๆ คิดอย่างนี้แล้วก็หวังนิพพานเป็นที่ไป ทำจิตให้มันชินเล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องมากนักสัก ๒ - ๓ นาที ก็ปล่อยจิตว่างหลับไป ถ้าท่านทำทุกวันอย่างนี้ ถ้าทำซ้ำตอนตื่นใหม่ๆ อีกสักนิด ๒ - ๓ นาทีจะดีมาก จิตว่างตอนนั้นมันหายเหนื่อย ถ้าทำได้อย่างนี้ทุกวันขณะใด ถ้าขณะป่วยอาการจะเครียดจริงๆ ตอนนั้นจิตของทุกคนจะเริ่มเป็น #สังขารุเปกขาญาณ_อารมณ์มันจะเฉยต่ออาการทั้งหมด #เฉยทั้งร่างกายของตัวเองมีความรู้สึกว่าร่างกายก็พัง_ช่างมันปะไร #เฉยต่อร่างกายของบุคคลอื่น #เฉยต่อวัตถุธาตุต่างๆ_มันเฉยจริงๆ อย่างนี้เป็นกันหลายคนในคณะของเรา อาตมาเองเคยป่วยก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เขามาบอก ตอนนี้เขาเรียกว่าสังขารุเปกขาญาณอย่างอ่อน เมื่อสังขารุเปกขาญาณอย่างอ่อนเริ่มขึ้น ถ้าทุกขเวทนามากขึ้น สังขารุเปกขาญาณมันจะครบถ้วนบริบูรณ์ นั่นคือจะตัดกิเลสทั้งหมดเอง เมื่อตัดกิเลสทั้งหมดก็เป็นพระอรหันต์ ตอนนี้แบบนี้ได้กันเยอะ ก่อนจะตายเป็นพระอรหันต์นี่เยอะเพราะจิตคุยเรื่องนิพพานจนชิน ฉะนั้น ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคน วันนี้เราศึกษาเรื่องธาตุในมหาสติปัฏฐานสูตร ความจริงอย่าคิดว่าง่าย เราพูดกันมันง่ายแต่อารมณ์มันหนัก แต่ทว่าก็จงอย่าประมาทในตัวเอง ให้มีความรู้สึกในร่างกายว่าประกอบด้วยธาตุ ๔ ยึดอารมณ์พระอรหันต์ให้ทรงตัวด้วย ยึดถือการวางเฉยในร่างกายของเรา ร่างกายของคนอื่นและทรัพย์สินต่างๆ ค่อยๆวาง วางนี่วันละ ๑ นาทีใช้ได้ อย่างนี้ท่านจะตายเมื่อไรอารมณ์ใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทจะจับสังขารุเปกขาญาณได้ นั่นคือเป็นพระอรหันต์ สวัสดี. #หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (#พระมหาวีระ_ถาวโร ป.ธ.๔) วัดจันทาราม(ท่าซุง)จ.อุทัยธานี : คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕๗ หน้า๑๒๖-๑๒๘ : Moddam Thammawong
สาธุอนุโมทนาบุญทุกบุญทุกท่านในโลกใบนี้บุญธรรมทานทั้งหมดขอให้อานิสงส์ทั้งหมดส่งผลให้ผมเข้าสู่พระนิพพานชาตินี้ครับ สาธุขอท่านลุงพุฒิพญายมราชโปรดเป็นสักขีพยานและอนุโมทนาบุญกับผมทุกบุญด้วยครับ สาธุ