เนื่องในทริปฉลองศาลาปรียนันท์ เพื่อให้เข้ากับยุทธภูมิ " เมืองโบราณ " จึงขอเชิญชวนให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ร่วมกันใส่ชุดไทย ไปในทริปครั้งนี้ จะเป็นไทยประยุกต์ ล้านนา แม้ว ม้ง กะเหรียง ลาว... ก็ไม่ว่ากัน ให้สมกับที่เป็นการฉลองความสำเร็จในอีกขั้นของกำลังใจ... แว่ว ๆ ว่า กิ๊บก๊าบ พร้อมผองเพื่อน ไปเหมาจตุจักรมาหลายชุด จะขนมาใส่งานนี้.. จิ๋มก็เตรียม ไว้แล้ว เป็นผ้าถุง แบบผ้าดิบ....ใครที่ยังไม่มี ก็ไปหาดูมาเด๊อ ... ถ้าไม่ได้ใส่งานนี้ ก็ไม่รู้จะได้ไปใส่งานแต่งใคร อ่ะ อ่ะ อ่ะ....
เราไปวัดเขาสมโภชน์มา กับพี่ป๋อม ซึ่งรู้จักกันบังเอิน ซึ่งต้องผ่านวัดป่าศรีมหาโพธิ์ ชอบลิงที่วัดเขาสมโภชน์ และได้ไปกราบหลวงพ่อทองดี ที่สังขารท่านเป็นธาตุหิน เพราะสละชีวิตของท่านให้เสือแม่ลูกอ่อนกิน ขึ้นเขาเห็นลิงชมนก ชมไม้ มีความสุขมาก อากาศเย็นสบายดี เสียอย่างเดียวไม่ได้ไปกราบพ่อปู่นาคาพี่เขาลืมพาไปนึกได้ขากลับ การเดินทางสะดวกราบรื่น นั่งรถสะดวกสะบาย มีความสุขกับธรรมชาติ คน ญาติธรรม สถานที่และกัลยามิตร การปฦบัติธรรม จริง ๆ
[IMG] ปล่อยความคิดถึงปลิวไปในอากาศ ล่องลอยหัวใจสะอาด ปล่อยไปแสนไกล กรุ่นกลิ่นบุหงาพัดมาด้วยรักจากใจ เพียงหวังให้ถึงใคร คนที่รอคนนั้น ส่งความคิดถึงปลิวไปในอากาศ คิดถึงใจจะขาด เธออาจไม่เข้าใจ แค่อยากให้รู้ ไม่ได้ต้องการสิ่งใด เธอไม่ต้องขืนใจ ถ้าเธอไม่ต้องการ ฝากเป็นเพลง ให้ลอย เล่นลมไป ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ ตราบนาน อสงไขยเวลา หากเพลงคิดถึงที่ปลิวไปในอากาศ เพียงถ้ามันพลั้งพลาด ไปไม่พบเธอ ให้บทเพลงนี้ล่องลอยเรื่อยไปเสมอ รอสักวันที่เจอ คนที่เขาต้องการ ฝากเป็นเพลง ให้ลอย เล่นลมไป ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ ตราบนาน อสงไขยเวลา แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ ตราบนาน อสงไขยเวลา ......... [IMG]
[IMG] ๑ เห็นดอกไม้นั่นไหม ที่วูบไหวในแดดอุ่น ท่ามกลางสายลมละมุน หอมกรุ่นกลิ่นฝันวันเยาว์ เห็นเธอคนนั้นไหม ที่หวั่นไหวในความเหงา ราวหยาดน้ำค้างบางเบา หม่นเศร้ากลางแสงตะวัน เห็นเขาคนนั้นไหม ผู้เก็บงำหัวใจแม้ในฝัน ผู้มิเคยเอ่ยจำนรรจ์ มิกล้าผูกพันกับความรัก เห็นภูผานั่นไหม มั่นคงยิ่งใหญ่ให้ตระหนัก มากมีความหมายให้ทายทัก ในอาณาจักรของวันคืน เห็นท้องฟ้านั่นไหม บางครั้งข่มใจให้ขมขื่น บางครั้งทายท้าให้กล้ายืน ให้กล้าขัดขืนชะตากรรม ๒ จากที่ราบเชิงผา จากเช้าสายมาเย็นย่ำ จากสว่างสู่มืดดำ จากเถื่อนถ้ำสู่โตรกธาร จากผืนไพรใหญ่ลึก จากดงดึกดำบรรพ์สู่บ้าน จากอดีตอันยาวนาน จากเรื่องเล่าขาน..สู่ความคิด ๓ เห็นหญิงชรานั่นไหม หรือวันและวัยพลาดผิด หรือเพราะความรักเป็นพิษ จึ่งเสียจริตโรยรา เห็นพ่อเฒ่านั่นไหม ที่ใครใครบอกว่าบ้า ที่หลังและไหล่อ่อนล้า รอวันเวลาตกตาย เห็นกองหินนั่นไหม วันคืนเปลี่ยนไปง่ายง่าย จากภูผา..ถูกทำลาย กลับกลายกองซบแผ่นดิน เห็นท้องฟ้านั่นไหม ดูช่างโหดร้ายเสียสิ้น ถูกลมพายุกลืนกิน พังภินท์สิ้นความเป็นฟ้า ๔ เห็น "ความรัก" บ้างไหม ไหนเล่าร่องรอยเสน่หา ไหนน้ำคำพร่ำเจรจา ไหนคำสัญญาผูกพัน เห็นดอกไม้บ้างไหม หรือมีแต่ในภาพฝัน หรือว่ามิอาจแบ่งปัน เมื่อวันเวลาผ่านเลย [IMG] ๕ ทอดสะพานเส้นด้ายสู่ปลายฝัน ไหนเล่าคืนวันที่เอื้อนเอ่ย หรืออีกด้านเคว้งคว้างเหมือนอย่างเคย เหลือเพียงลมรำเพยพอผ่อนคลาย เคยเห็นรุ้งเธอวาดพาดขอบฟ้า เคยโดนซับน้ำตาในแดดบ่าย เคยอิงไหล่ไออุ่นยังกรุ่นกาย หรือเพียงภาพสุดท้าย..ไว้ให้จำ เพียงสัมผัสละมุนอบอุ่นนั้น รู้ไหมไหวหวั่นทุกคืนค่ำ รู้ไหมเพียงเล่ห์ทะเลคำ ก็ท่วมท้นจนหนำเนื้อหัวใจ ๖ เพียงเพราะวานวันฉันมีเธอ รู้ไหมใจเผลอเสียยกใหญ่ เมื่อพบว่าวันนี้..ไม่มีใคร โลกจึงกลับคลับคล้าย..ไร้คืนวัน ๗ นั้นหรือคือ "ความรัก"... หรือเพียงภาพประจักษ์ของนักฝัน หรือเพียงรอยไหวหวามความผูกพัน ...เพียงของกำนัล..จากกาลเวลา... ๘ แค่เพียงมีฉัน..และมีเธอ ในสายลมละเมอเมื่อห่วงหา เสียงหัวเราะ, ร่ำไห้ ..สายน้ำตา เพียงนี้หรือคือ 'ค่า' ของความรัก เพียงรูปแบบงดงามแห่งสัมพันธ์ และมี 'เธอ' มี 'ฉัน' ไว้ปกปักฯ ได้ครอบครอง "กุม" ไว้ด้วยใจภักดิ์ หรือว่านี่จัก..'จำต้องเป็น' [IMG] ๙ มีบ้างไหม... สิ่งยึดโยงสายใยมองไม่เห็น ที่อบอุ่น-อ่อนนุ่ม ที่ชุ่มเย็น ไม่เร่งร้อนซ่อนเร้นดั่งเป็นมา มีบ้างไหม... ที่ต่างมอบความหมาย..ให้คุณค่า และกุมมือ 'ก้าวเดิน' ด้วยศรัทธา เพื่อสร้างฝัน-ฟันฝ่า..มายาการ มีบ้างไหม...ช่วยฉุดรั้งหัวใจให้ก้าวผ่าน จากบาดเจ็บ เหน็บหนาว จากร้าวราน ให้ก้าวพ้นสายธารแห่งน้ำตา... มีบ้างไหม... ที่ห่างไกลพ้นห้วงเสน่หา แต่ห่วงใย, ไมตรี..มีเมตตา และตระหนักคุณค่าอันพึงมี... ให้เธอได้ 'เป็นเธอ' อย่างเธอเป็น และเธอเห็น 'ฉันเป็นฉัน' สมศักดิ์ศรี ขณะ 'เราเป็นเรา' ได้ด้วยดีโดยยังเหลือ 'พื้นที่' ..พอร่วมทาง ๑๐ สว่างแล้ว... นั่นเถื่อนแถวพงไพรอันใหญ่กว้าง นั่นหมอกเมฆลอยเลื่อน..ดูเลือนลาง และนั่นคนอ้างว้าง ยังเฝ้ารอ... รอการมี การเพิ่ม การเติมฝัน รอเพื่อเพิ่มเผ่าพันธุ์ให้สืบต่อ หรือมีเหลือ เผื่อไว้ เผื่อไม่พอ หรือเพื่อทุกข์ เพื่อท้อ เพื่อรอรับ ๑๑ แม้กี่อสงไขย... และเวลาผ่านไปสักกี่กัป นานและเนิ่นเกินกว่าจำนวนนับ มนุษย์ยังอยู่กับชะตากรรม ที่จะรัก จะร้าง จะสร้างหวัง บนเศษซากปรักพังของคืนค่ำ และก้าวเดินอยู่ในความมืดดำปราศจาก 'แสงนำ'..ช่วยชี้ทิศ หรือนี่..คือ 'คำสาป' หลังดื่มด่ำกำซาบรสความผิด ของรสรัก รสรวม ร่วมชีวิต และบังอาจจะลิขิต...ชีวิตตน. [IMG] ๑๒ เห็นดอกไม้นั่นไหม ที่มิเคยหวั่นไหวให้หมองหม่น ท่ามกลางคลื่นเวลาทะเลคน และเวิ้งหวังวังวนของวันคืน เห็นหญิงสาวนั่นไหม เธอมีใครร่วมฝันวันเธอตื่น เธอยึดเหนี่ยวสิ่งใดไว้หยัดยืน และยิ้มชื่นยอมรับกับคืนวัน เห็นหนุ่มน้อยนั่นไหม เขามีดาวดวงใดไว้ยึดมั่น และเหลือ 'ดาว' ดวงใดไว้แบ่งปัน เมื่อเริ่มสร้างสัมพันธ์ด้วยศรัทธา เห็นภูผานั่นไหม สิ่งซึ่งเป็นหลักชัยของคนกล้า จะมีอยู่หรือไม่ในสายตา ก็จักยังทายท้านักเดินทาง เห็นท้องฟ้านั่นไหม เมื่อเธอมองด้วยใจใสกระจ่าง แม้จะไร้โค้งรุ้ง หรือรุ่งราง ฟ้ายังเป็นฟ้ากว้างสำหรับเรา ๑๓ ดอกเอย..เจ้าดอกราตรี อย่ากำนัลพรุ่งนี้..ด้วยความเขลา ที่เคยหม่น-หมองหมาง..จงบางเบา และรับเอา 'กำลังใจ' ไว้เตือนตน ดอกเอย..เจ้าดอกรัก อย่ามัวจำหลักความหมองหม่น จงก้าวข้ามความทุกข์ด้วยอดทน และผ่านพ้นปัญหาประดามี ดอกเอย..เจ้าทานตะวัน จงเผยแพร่เผ่าพันธุ์ไปทุกที่ และจงกล้าฝ่าฟันเพื่อวันนี้ เพื่อความงามความดีของผู้คน [IMG] ๑๔ เมื่อมีใครไถ่ถามถึง 'ความรัก' อย่าเพียงตอบให้ประจักษ์ด้วยเหตุผล จงเชิญชวนให้เขาเข้าใจตน และรับผลถ้วนทั่วด้วยตัวเอง ว่า 'รัก' นั้นคือ 'รัก' มิใช่การปกปักฯ หรือข่มเหง มิใช่เกณฑ์กำหนดหรือบทเพลง และมิใช่เพื่อตัวเองหรือใครใคร ว่า 'รัก' นั้นคือ 'รัก' มิใช่การตระหนักหรือฝันใฝ่ มิใช่คำวิเศษเวทมนตร์ใด เพียงผ่านมา รับไว้...เพื่อแบ่งปัน ว่า 'รัก' นั้นเพื่อ 'รัก' เพียงเพื่อจักร่วมสร้างสรรค์ เพื่อก้าวพ้นล่วงผ่านซึ่งวารวัน เพื่อ 'รัก' จัก กำนัล 'รัก' ตอบแทน. รจนาโดย....เครือมาศ วุฒิการณ์
[IMG] เห็นสายน้ำ..นทีที่มันไหล..ไป เหมือนใจกาย....เคยสลาย..สิ้นลงตรงนั้น ใจที่วนว่ายเวียน....หลงวนในบ่วงกรรม..ผูกวิญญา..มานานแสนนาน คงเป็นรอย...อดีตที่เคยได้ทำ หลงบ่วงกรรม..ว่ายอยู่ในทุกข์ภัยอันนั้น แต่มาพบ..มาเจอ...แสงพระสัจจะธรรม...ฉุดดวงใจ..ที่ทุกข์ทนให้พบความจริง หลักคำสอน.....ที่ได้ฟังนั้นจะจำไว้.....เพื่อไปอย่างที่ตั้งใจ......ก้าวไกลสู่แดนนิพพาน จะห่างไกล..ไม่ท้อใจ.....ขอเพียงตั้งมั่นไว้........บุญที่เร่งทำจะนำ..น้อมไป สายน้ำเอ๋ย....พระคงคาเป็นพยาน......ถึงตะวันขึ้นสู่ฟ้ายังพลัดตก..ไป แต่หลักธรรมนั้นจริง....ไม่มีวันเสื่อมคลาย.....บุญคือเชื้อใจ.....ทางไปสู่พระนิพพาน แต่หลักธรรมนั้นจริง.....ไม่มีวันเสื่อมคลาย......บุญคือ...เชื้อใจ....ทางไปสู่...พระนิพพาน ......บุญคือ...เชื้อใจ....ทางไปสู่...พระนิพพาน
แต้วเอง...ก็อยากไปค้างเหมือนกัน แบบทำงานเสร็จ 5 โมงเย็น เดินทางซัก 6 โมง ไหมล่ะ รอจุ๊บปิดร้านด้วย เฮียรู้จักทางไม่ใช่หรือ ถ้าเดินทางกลางคืนก็ไม่มีปัญหา...หรือว่าไงล่ะ.. แล้วธุระอะไรเอ่ย... เสร็จตั้ง 4 ทุ่ม...
เฮีย... ไปปรียนันท์ ไปนอนค้างตั้งแต่คืนวันเสาร์ เลยเอาไหม อยากค้างง่ะ...เอารถเฮียไป เดี๋ยวช่วยแชร์ค่าน้ำมัน..