เมื่อกี้ผมขี่จักรยานเพื่อมาที่มหาวิทยาลัย เพื่อจะได้ต่ออินเตอร์เน็ตฟรี ปกติก็ขี่ประมาณ ๑๐ กิโลเมตรประจำๆ รถบนถนนค่อนข้างเยอะหน่อยฮะ ก็เป็นรถบรรทุกสิบล้อเยอะ รถทัวร์ ทำให้รถเล็กๆ อย่างมอเตอร์ไซต์และจักรยานต้องหลบมาไหล่ทาง ผมเลยขี่เลาะไหล่ทาง ประจำๆ ไปกลับเป็น ๑๐ กิโลเมตร คิดอยู่ทุกวันว่าวิถีชีวิตแบบนี้ ต้องถูกรถชนหรืออุบัติเหตุสักวันหนึ่ง ตอนเช้าขี่จักรยานออกมาก็ล้มลง โชคดียังไม่มีรถมาก ต่อมาก็ไป ต่อ ทำไงได้ละฮะ ผมยังไม่ตายสักที ก็ต้องเดินสู้ไปจนกว่าจะตาย แล้วเวลาที่ผมจะถูกรถชนก็มาถึง...
ผมหลบรถใหญ่ๆ เลาะข้างทางนิดหน่อย แต่บังเอิญรถมอเตอร์ไซต์ขับ มาทางด้านหลังซึ่งผมไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยการขี่รถจักรยาน ทำให้ รถมอเตอร์ไซต์เฉี่ยวเข้ากับรถของผม ผมจึงล้มไปทั้งคัน แต่รถมอเตอร์ไซต์ ก็ขี่ไปอย่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และยังไม่ได้เหลียวมองมา ผมล้มลงแล้วกำหนดจิตพิจารณาธรรม ไม่รู้ว่าเป็นกรรมปัจจุบันหรือกรรมใน อดีต แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราทำไว้แน่ละฮะ ก็เลยขอนั่งพัก (เจ็บน่ะ) รับกรรม เงียบๆ ผมมองดูคนที่ชนผมนิดหน่อย อยากลองใจเขาว่าเขาจะทำอย่างไร เธอเป็นพยาบาลในชุดขาว และเธอเล่าให้ผมฟังภายหลังว่า มีคนจ้องเธอ ชี้หน้าเธอ อาจเกรงว่าเธอจะหนี ดังนี้ เธอไปไกลแล้ว สุดท้ายเธอก็ยังย้อน กลับมาช่วยผม (ดีใจนิดหน่อยที่เพื่อนร่วมโลกมีเมตตา) เธอจึงมาดูอาการ และไตร่ถามผม ผมบอกว่าไม่เป็นไรครับ ขอพักหน่อยหนึ่ง (ผมอยากพัก สงบจิต เพราะตอนนั้น สติตื่นเต็มที่ตาสว่างโร่ แล้วจิตมันว่าง มีความสุข ไปอีกแบบ) แต่มันก็เจ็บและแสบบ้างนะฮะ เพราะมือถลอกมีแผลเลือดออก และเข่าก็ถลอกมีแผลเหมือนกัน ผมนั่งชิมรสชาติของอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ผมได้รับได้อรรถรสแปลกๆ เพราะ เวลาเสี้ยววินาทีที่เหมือนจะเสี่ยงชีวิตนี้ จิตมันตื่นได้สติดีจริงๆ แถมมันไม่คิด อะไรเลย ว่างไปหมด นิ่งเฉยเสียอย่างนั้น คิดได้อย่างหนึ่ง ตายละหว่า ถ้ากำหนดจิตแบบนี้ วันหลังโดนชนมิเข้านิพพาน ดอกหรือ? ว่าแล้วก็คิดได้ว่า ไม่ได้ๆ วันหลังต้องระลึกถึงพระนามพระอมิตาภะ มากๆ เข้าไว้ เผลอถูกรถชนตายก็ยังไม่โผล่นิพพาน อิๆๆๆ
เธออาจกลัวว่าผมจะเอาเรื่องมากมาย เธอคงไม่มีเงินมาก และเกรงว่าตนเอง อาจต้องติดคุก ผมเลยเฉยๆ ไว้ เพื่อให้กรณีที่ผมถูกชนนี้ เป็นเครื่องทดสอบจิต เพื่อสอนให้เธอเสียสละบ้างนิดหน่อย เธอก็ถามผม ผมก็ว่าไม่เป็นไรมากครับ ขอพักนิดหนึ่ง แล้วเธอคงมีจิตเมตตาขึ้นมา เธอคิดได้ว่า น่าจะไปส่งผมนะ แล้วเธอก็โทรให้แฟนเธอขี่รถมารับผมไปส่ง ทันที (ดีใจจัง เธอตั้งสติได้แล้วมีปัญญาแก้ได้ด้วย) ผมก็โอเค เพราะขี่จักรยาน ต่อคงไม่ไหวแล้ว แต่ยังไงก็ต้องมาโพสกระทู้ฮะ ทำไงได้ มันไม่ยอมตายเสียที ก็ต้องหาเรื่องป่วนเว็บไปวันๆ อิๆๆ แฟนของเธอเกรงว่าผมจะเป็นบาดทะยัก จึงแนะนำให้ผมไปรักษา ล้างแผล แต่ ผมคิดว่าไม่เป็นไร ปล่อยให้เจ้ากรรมนายเวรเขาจัดการผมให้ครบๆ ดีกว่า เพราะ รออยู่นานแล้ว ผมก็ดีใจว่า แหม นายคนนี้ มีปัญญาดี ตั้งสติได้ ใช้ได้ มีเมตตา ทั้งสองเลยขับรถมาส่งผม ผมไม่อยากให้นางพยาบาลรู้สึกผิดในอุบัติเหตุ เพราะจะทำให้เธอมีแผลในใจได้ (ไม่มีใครอยากได้ชื่อว่าทำร้ายหรือเป็น ฆาตกร) ดังนี้ ผมจึงทำตัวเฉยๆ ทั้งคู่เลยถามเรื่องราวผมเล็กน้อยเพื่อ ปลอมโยน ผมก็รอดูและรับอย่างเดียว เพราะสิ่งนี้ที่เขาทำล้วนเป็นบุญ ที่เขาจะได้รับเอง ดังนั้น จึงไม่พูดอะไรมาก เขาทำเท่าไรก็ได้เท่านั้น เราก็รอรับสิ่งที่เขาทำเงียบๆ ไม่ได้เรียกร้องเงินค่าเสียหายอะไร
คิดว่าหากได้ฝึกถูกรถชนอีกสัก ๒ ถึง ๓ ครั้ง คิดว่าความตายด้วยอุบัติเหตุข้าง ถนนนี่คงเป็นธรรมดา ไมได้ละ ต้องไปฝึกกำหนดจิตถึงพระอมิตาภะเสียแล้ว กลัวเผลอไหลเข้านิพพาน อิๆๆๆ... (อูยยย แสบมือ เลือดไหลเยย)
ขอให้หายไวๆ แล้วก็เคราะห์กรรมผ่านมาแล้ว ผ่านไปหมดเคราะห์ หมดโศก ทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์เยอะๆครับ จะได้ไม่ประสบอุบัตเหตุในเบื้องต้น มีสติระมัดระวังในเบื้องกลาง และอย่าประมาทในที่สุด ชีวิตก็จะปลอดภัยในทุกๆเหตุการณ์
พี่ๆถามหน่อยครับ เข้านิพพานนี้เข้าง่ายๆแค่กำหนดจิตให้เป็นสมาธิตอนใกล้ตายหรอครับ แล้วพระอรหันต์นี้ก็นิพพานเหมือนกนัใช่ไหมครับ ปรินิพพานกับนิพพานต่างกันยังไงครับ แล้วนิพพานนี้เป็นแดนหรอครับ ตายแล้วจะไปอยู่แดนนิพพานหรอครับ ตายแล้วสูญมีไหมครับ ถ้าอยากตายแล้วสูญต้องทำไงบ้างอะครับ
จิตที่จะเข้านิพพานต้องมีทั้งสติ และปล่อยวางทุกอย่างของจิต ที่สำคัญต้องมีพลังบริสุทธิ์อย่างมากของจิตถึงจะส่งถึงแดนนิพพานได้ ไม่ใช่ว่าใครอยากจะนิพพานก่อนตายแล้วแค่นึกเฉยๆ นึกไม่ออกหรอกเพราะไม่เคยเห็นแดนนิพพาน ดังนั้นพระอริยสงฆ์ ทั้งหลายถึงได้ฝึกอย่างเอาเป็นเอาตายเหรอถึงได้นิพพาน ไม่ใช่นั่งเฉยๆ นอนเฉยๆแล้วคิดไปวันๆ แล้วจะได้นิพพานนะจ๊ะ
อย่าเพิ่งรีบอยากตาย....บุรุษอย่างท่าน...ลองได้ขึ้นขันธ์เอง ยากนักที่จะตายได้ (ถึงแม้อยากจะรีบตายก็ตามเต๊อะ) ต้องได้บทเรียน ของความเจ็บปวด ความทุกข์เวทนา....จนถึงความสุขสมหวังเสียก่อน...เมื่อนั้น ท่านถึงจะนำประสบการณ์เหล่านี้มาบอกต่อ สอนรุ่นหลัง หากท่านไม่เจอกับตนก็ยากนักที่จะบอกเล่าแก่คนอื่นได้...นี่คือบทเริ่มต้นของชีวิตท่าน ตามหน้าที่... ขอพุทธานุภาพจงคุ้มครองท่าน สาธุ สาธุ สาธุ
ผมก็เคยถูกชนล้มครับ เห็นว่ากรรมคล้ายๆกันเลยเอามาเล่าสู่กันฟัง ตอนนั้นผมกำลังขับมอเตอร์ไซด์ หรือเจ้าแก่เพื่อนยากของผมไปศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ระหว่างทางต้องเข้าไปในซอยแคบๆ สองข้างทางมีร้านขายของชำอยู่ปะปลาย มีรถปิกอัพคันหนึ่งขับนำผมอยู่ข้างหน้าไม่ไกล อยู่ๆเขาเบรคขึ้นมากระทันหัน จนผมเกือบชนหลังรถของเขา ไม่เป็นไร ผมค่อยๆถอยออกมาสักหน่อยแล้วออกซ้ายขับต่อไป เขาก็เปิดประตูออกมาชนเจ้าแก่ของผมอย่างแรงจนเสียหลักล้มไปเลย ตัวผมเองตอนนั้นไม่เป็นอะไรมาก ย้อนกลับไปกะจะบอกเขาว่าไม่ต้องเป็นห่วง ยังพูดไม่ทันจบเลย ป้าเขาก็สวนกลับมาว่าขับรถไม่รู้จักระวัง รู้ก็รู้ว่ารถหยุดก็ต้องเปิดประตูออกมาซื้อของ ผมก็งงเลย นี่มันกลางถนนถึงแม้จะเป็นในซอยก็เถอะ ไม่ได้เลี้ยวเข้าไปจอดข้างทางเลย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะรู้ว่าอธิบายไปเขาก็คงโยนให้เราผิดอยู่ดี แล้วก็ขับเจ้าแก่จากไป วันรุ่งขึ้นข้อเท้าเริ่มบวม ปวดมาก นั่งรับกรรมไปอีก 3 วัน อยากระลึกชาติได้จังว่าเคยทำกรรมอะไรไว้ โดนแบบจำสิ่งที่ตัวเองเคยทำกับเขาไว้ไม่ได้แบบนี้ก็เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่
ทุกความเห็นก็เป็นด้วยความเมตตากรุณา ทำให้ผมรู้สึกดีที่คนมีเมตตายังมีอยู่ มาก แม้จะเบื่อมนุษย์เส็งเคร็งที่มีมากบนโลกนี้ก็ตาม เอ้า ก็สู้ต่อไป ไอ้มดแดง อนึ่ง ผลบุญบารมีที่ท่านได้ทำร่วมกันนี้ ก็ขอให้เป็นผลบุญบารมีที่หนุนนำท่าน ได้ปราศจากความทุกข์ทั้งมวล พบความสุขที่แท้จริงตลอดไปนะครับ (ปล. ถ้าไม่ขึ้นขันธ์ จะตายไปแล้วไหมเนี่ย?)