ถ้าได้อภิญญา6 ก็ไม่ได้เป็นพระโพธิสัตว์ดิ เพราะญาณข้อที่ 6 คือ "อาสวักขยญาณ" ญาณรู้ในการทำอาสวะให้สิ้นไป ด้วยการดับอวิชชารากเหง้าของการเกิด อภิญญา 5 เป็นโลกียอภิญญา ส่วนอภิญญา6 เป็นโลกุตระอภิญญา เค้าจึงให้ทำแค่อภิญญา5 มั้ง เพราะจะไม่ได้เป็นพระโพธิสัตว์ไง เลยได้เป็นพระอริยสาวกไป เพราะถ้าได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จะมีญาณ ที่เรียกว่า "พระสัพพัญญุตญาณ" ญาณต่างๆ ของพระพุทธเจ้า ก็อย่างใน พระคาถาอาการวัตตาสูตร
อภิญญาที่6 อาสวขยญาณ เป็นปัญญาญาณที่ดับกิเลสได้สิ้น บุคคลบริสุทธิ์หลุดพ้นได้ด้วยปัญญาญาณนี้ได้แก่ พระอรหันต์พวกปัญญาวิมุติหรือประเภทสุกขวิปัสสโก คงได้คำตอบแล้วนะครับว่าทำไมถึงต้องมาหยุดอยู่ที่ อภิญญา5
จะเป็นครูเขา ก็ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง ให้ได้ถึงที่สุดของทั้งสมถะและวิปัสสนา ครบถ้วนแล้วก็ก้าวข้ามโลก มาสั่งสอนและชี้แนะบริวารและเหล่าเวยไนยทั้งหลายต่อไป เจริญธรรม
หลายท่านตอบไว้ดีแล้วครับ...โมทนาสาธุธรรมนะครับ... อภิญญา พุทธภูมิ ทุกท่านต้องทำได้ครับ....เพราะเป็นข้อกำหนด... กรรมฐาน ๔๐ บารมี ๓๐ ทัศ ต้องครบและต้องละเอียดทั้งหมดครับ....
ถูกต้องแล้วครับ ทำฌาณ(สมถกรรมฐาน) ได้ญาณทัศนะ(อภิญญา) ฝากฝึกเดินปัญญา วิปัสสนากรรมฐาน ด้วยครับ ขอให้เจริญยิ่งขึ้นในธรรมอันประเสริฐครับ
ลองศึกษาปฏิปทาของพระพุทธเจ้า ในหลายชาติของพระองค์ พระองค์ท่านมีอภิญญาสมาบัติตลอด เพราะฉะนั้นคำตอบคือ ฝึกได้ครับ อีกจุดหนึ่งที่อยากให้มอง คือ ธรรมสโมธาน ๘ ครับ หากมีธรรมสโมธาน ๘ เต็มเมื่อไร จึงจะมีสิทธิ์ได้รับพุทธพยากรณ์ ซึ่งธรรมสโมธาน ๘ มี ๑. มนุสฺสตฺต (เมื่อตั้งความปรารถนา ต้องเป็นมนุษย์) ๒. ลิงฺคสมฺปตฺติ (ลิงคสมบัติคือเป็นเพศชาย) ๓. เหตุ (มีเหตุคือสร้างกุศลมาก สมควรจะเป็นพระอรหันต์ได้) ๔. สตฺถารทสฺสน (พบพระพุทธเจ้าและได้รับพยากรณ์) ๕. ปพฺพชฺชา (บวชเป็นภิกษุ สามเณร หรือฤาษีผู้เป็นกัมมวาที) ๖. คุณสมปตฺติ (บริบูรณ์ด้วยคุณ คือ ฌานสมาบัติและอภิญญา) ๗. อธิกาโร (การกระทำกุศลอันยิ่งใหญ่) ๘. ฉนฺทตา (พอใจในโพธิญาณ) สังเกตที่ข้อ ๖ ครับ คุณสมปตฺติ บริบูรณ์ด้วยคุณ คือ ฌานสมาบัติและอภิญญา.