วันเข้าพรรษา • วันปลอดนรกการ ...เมื่อวันออกพรรษานอนๆ ภาวนาอยู่ เห็นลุงทั้งสององค์ท่านมาตาม ธรรมดาถ้ามาท่านจะตามไปสำนักงานของท่าน นุ่งผ้าปล่อยชายเป็นสัญลักษณ์ เป็นการแสดงออก เทวดามีมาก พรหมมีมาก ไม่รู้ใครเป็นใคร . ท่านก็แสดงเป็นผ้าแทนที่จะเป็นโจงกระเบน ใช่ไหม นุ่งผ้าคล้ายผ้าพื้นแต่ปล่อยชายลง เป็นการแสดงออกว่า ท่านสององค์มา แต่ว่าในวันออกพรรษาท่านไม่ได้นุ่งผ้าปล่อยชาย นุ่งผ้าไหมสวย ฉันก็เลยถามว่า "ลุง!...วันนี้หนุ่มเหมือนเด็กอายุ ๑๘" ตามธรรมดาเทวดาหรือพรหมเขาไม่แก่ ท่านบอกว่า "วันนี้ผม ปลอดภาระนรกการ ครับ" รู้จักนรกการไหม อย่างคนรับราชการ ท่านบอก "วันนี้หยุดราชการ" ที่นั่นเขาปลอดนรกการ ถามว่า "ลุงปลอดกี่วันล่ะ?" ท่านบอก "ปลอด ๓ วัน คือวันขึ้น ๑๔ ค่ำ ขึ้น ๑๕ ค่ำ กับแรม ๑ ค่ำ ก็เลยถามว่า " ปีหนึ่งมีการปลอดกี่ครั้ง ?" ท่านบอก "๔ ครั้ง" "วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา" หมายความว่าใน ๔ จุดไม่มีการสอบสวนกัน ก็ถามท่านว่า "ถ้าลุงไม่มีการสอบสวนก็แสดงว่า ผู้ที่ตายยังเรียกว่าสัตว์นรกไม่ได้นะ เพราะเขายังไม่แน่ว่าผิดหรือไม่ผิด ฉะนั้น ผู้ที่รอการสอบสวน ลุง..เขาปล่อยเป็นอิสระใช่ไหม ?" ท่านบอกว่า "ใช้คำว่าปล่อยน่ะไม่ถูก เพราะทุกคนเขาเป็นอิสระหมด ไม่ถือว่าเป็นนักโทษ แต่ว่าเท่าที่เขาไปรวมอยู่ที่นั่น เขาทราบว่า จะมีคนสักคนหนึ่งคอยช่วยเหลือเขาไม่ให้ลงนรก เขาไปรอการสอบสวน เราไม่สอบสวนเขาก็ไปตามเรื่องของเขา ไปหาญาติๆ" ️ก็เลยถามว่า "ในขณะที่เขาออกมาได้อย่างนั้น และถ้าญาติเขาจะบำเพ็ญกุศลให้จะได้ไหม?" ท่านก็บอกว่า " ถ้าญาติฉลาดทุกคนได้หมดและก็ไม่ต้องลงนรก" ถามว่า "ทำยังไง?" ท่านบอกว่า "ทำบุญอุทิศเฉพาะ ออกชื่อตรงคนนั้นเลย แต่มันก็ไม่แน่นัก บางทีบาปหนา บางทีไม่ได้รับ" ท่านบอกให้ฝากพระยายมว่า "การอุทิศส่วนกุศลคราวนี้ ถ้าบุคคลนั้นไม่ได้รับ ขอฝากพระยายมไว้ด้วย ถ้าพบคนนี้เมื่อไร ขอบอกให้เขาโมทนาทันที" อันนี้ถ้าเขาผ่านสำนักผม ผมจะบอกให้เขาโมทนาทันที ___________________________ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วัดท่าซุง) ที่มา : ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๓๖๕ หน้า ๙ ขอบคุณที่มา