อ้าวเห็นถกๆ เถียงๆ อารายกันคนดีจริง ไม่ดีจริง เอาตำราเปิดตา " ปัญญา" ไป วิชชานี้เปิดตาแล้ว ดูมารแปลงในร่างคนดี ที่อยู่ในออฟฟิศคนได้ด้วย เอามาให้ดูบางส่วนละกาน... [b-hi]
เมื่อได้สิ่งดีงาม ลาภสักการะ คนดีจริง ไม่ประสงค์จะออกนาม ไม่ประสงค์จะออกหน้า เพราะแค่อยากทำดี ไม่ได้อยากให้คนชม<O</O คนดีเทียม ประสงค์จะออกหน้าออกนาม เป็นเจ้ากี้เจ้าการ เป็นตัวการใหญ่ มีผู้คนห้อมล้อมมากมาย<O</O <O</O เมื่อมีเรื่องร้ายเกิดในหมู่คณะ<O</O คนดีจริง ประสงค์ออกหน้ารับแทนหมู่คณะ เช่น รับหน้าแทนลูกศิษย์แล้วไปจัดการลูกศิษย์ทีหลัง<O</O คนดีเทียม ไม่ประสงค์จะขึ้นเขียง ยกให้คนอื่นจัดการลูกศิษย์ของตนแทน เอาลูกศิษย์ตนบูชายันต์<O</O <O</O เมื่อมีคนร้ายกาจก่อกวนคณะ<O</O คนดีจริง ยอมเสี่ยงแม้นรู้ว่าเขาเหนือกว่าตน และตนอาจพ่ายแพ้ แต่ก็ต้องลองทำ ตนบาดเจ็บก็ยอม<O</O คนดีเทียม หนีหรือหลีกเลี่ยงดีกว่าเพราะไม่อยากเสี่ยงให้ชื่อเสียงตนเสีย ไม่อยากต้องพ่ายแพ้อับอาย<O</O <O</O เมื่อกล่าวถึงหลักธรรมความดี<O</O คนดีจริง มักจะใช้เตือนใจตนเองเงียบๆ เสมอ ไม่ค่อยแน่ใจว่าตนดีหรือยัง สำรวจตนเองด้วยธรรม <O</O คนดีเทียม มักใช้อ้างเหตุต่อผู้อื่นเสมอเพื่อยังประโยชน์แก่ตน จึงดูเหมือนคนดีเพราะพูดธรรมมาก<O</O <O</O เมื่อมีคนเลวผิดพลาดอย่างโจ่งแจ้ง<O</O คนดีจริง รู้ว่าเขาต้องได้รับเคราะห์กรรมหนักแม้นเขาจะเป็นมารก็จะยั้งมือ และพยายามช่วยเหลือ <O</O คนดีเทียมรีบจี้จุดอ่อนเอาหน้า เช่น รู้ว่าเขาตกงาน ไม่ช่วยหางาน เห็นจุดอ่อนก็กระทืบซ้ำจุดนี้เลย<O</O <O</O เมื่อมีเหตุเภทภัยต่อมหาชน <O</O คนดีจริง รีบบอกกล่าวโดยไม่ทันรู้ว่าการบอกกล่าวนั้นอาจทำให้ตนต้องได้รับเคราะห์กรรมแทน<O</O คนดีเทียม รีบเก็บเงียบเอาตัวรอด หรือ ช่วยเหลือเฉพาะพวกพ้องของตนในวงแคบ ตักตวงกักเก็บ<O</O <O</O เมื่อต้องถกเถียงหาข้อสรุป<O</O คนดีจริง จิตแสวงมุ่งหาความจริงและหลักธรรมแม้นจะคนต่อต้าน เขาจึงต้องขัดใจคนส่วนใหญ่<O</O คนดีเทียม จิตมุ่งเอาใจคนส่วนใหญ่มาสนับสนุนความคิดตน แล้วพยายามบอกว่ามันคือความจริง<O</O <O</O เมื่อมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นในคณะแม้นไม่ใช่ตนทำ<O</O คนดีจริง จะกล้าบอกชัดเจนว่าเป็นความผิดของตน ตนผิดไปแล้ว ลงโทษเถิด เพื่อลบล้างความผิด<O</O คนดีเทียม จะพยายามอ้างสาเหตุและบุคคลอื่นสารพัดว่าเป็นสาเหตุแห่งความผิดนั้น ไม่ใช่เพราะตน
เมื่อมีต้องจัดการคนไม่ดีคนหนึ่งในคณะ คนดีจริงจะสงสารคนไม่ดีก่อน แล้วรอดูว่าจะทำอย่างไรให้เขารับกรรมน้อยที่สุด ไม่ฉวยโอกาส<O</O คนดีเทียม ฉวยโอกาสเป็นฮีโร่ปราบมาร เพื่อแสดงตนเป็นคนดีด้วยการเหยียบย่ำมารที่เพลี่ยงพล้ำ<O</O <O</O เมื่อมีการอ้างอิงหลักการหรือหลักธรรม<O</O คนดีจริงแสวงหาความจริงเป็นที่ตั้ง ถกเพื่อหาความจริง เพื่อชำระสะสางหลักธรรมให้ถูกต้อง <O</O คนดีเทียม อ้างอิงหลักธรรมเพื่อให้คนเชื่อถือตน แต่มุ่งยังผลประโยชน์แก่ตน ให้เห็นว่าตนเลิศ<O</O <O</O เมื่อต้องสอนคนดื้อที่หลงงมงาย<O</O คนดีจริงให้ปัญญาคน แต่ไม่โชว์ความสามารถตนเอง หรือโชว์แต่ไม่เปิดเผยตน ไม่ประสงค์สาวก<O</O คนดีเทียม เป็นโอกาสอันดีแท้ อยากโง่กันเอง ก็อาศัยความโง่งมงายของคนหากิน ชอบแสดงฤทธิ์<O</O <O</O เมื่อมีผู้คนมากมายมาห้อมล้อม<O</O คนดีจริงหลีกหนีปลีกวิเวก ด้วยเห็นว่าการคลุกคลีในหมู่คนมากมายไม่ใช่ความสงบ จึงหลบผู้คน<O</O คนดีเทียม ยินดีที่มีคนมาห้อมล้อมมากมาย ชอบให้คนนิยมศรัทธา เอาการสักการบูชามาหล่อเลี้ยง<O</O <O</O เมื่อถามคนส่วนใหญ่ว่าใครคือคนดี<O</O <O</O เวลาแสดงความศรัทธาพระพุทธเจ้า<O</O คนดีจริงศึกษาอย่างลึกซึ้งเพื่อได้รู้จักพระพุทธเจ้า แล้วนับถือที่
เมื่อไปฟังเทศนาพระดังๆ กลับมา<O</O คนดีจริง จะนำคุณงามความดีของพระที่เทศนานั้นๆ มาชักชวนให้พวกพ้องไปหาดู แต่ไม่เทศน์เอง<O</O คนดีเทียม จะเทศนาเสียเอง ราวกลับว่าตนเป็นผู้รู้เสียเอง ให้ใครๆ ชื่นชมตนว่ารู้มากอย่างนั้นอย่างนี้<O</O <O</O เมื่อมีคนแปลกหน้าดูมีความสามารถมากปรากฏ คนดีจริง จะสนใจเข้าไปหา อยากเรียนรู้ อยากรู้จัก ปราศรัยลึกซึ้ง และจะไม่แสดงการชื่นชมมาก<O</O คนดีเทียม จะพยายามเข้าบงการคนนั้นทันที เพื่อกดหรือข่มให้อยู่ใต้อำนาจตนด้วยการพูดต่างๆ<O</O <O</O เมื่อมีผู้อ่อนแอต้องการความช่วยเหลือมาปรากฏต่อหน้า<O</O คนดีจริงจะดูจังหวะโอกาสก่อน แล้วค่อยหาทางช่วยเหลือ หรือวางเฉยด้วยเพราะมีผู้ออกหน้าแล้ว<O</O คนดีเทียม จะดูคนส่วนใหญ่ หาประเมินแล้วว่าคนส่วนใหญ่สนใจ ก็จะออกหน้าเป็นฮีโร่ช่วยเหลือ<O</O <O</O เมื่อพบคนนิ่งเงียบไม่แสดงตนเองว่าเป็นคนดีหรือเลวแต่ส่งผลกับตน<O</O คนดีจริง นิ่งวางเฉยตามเฝ้าระวังตนเพราะเกรงใจ และถอยออกก้าวหนึ่ง ไม่กล้าเข้าไปกล้ำกรายมาก<O</O คนดีเทียม พยายามบีบเค้นให้แสดงตนออกมาว่าเป็นคนดีหรือคนเลว พยายามจ้องจับผิดแบบตนคิด<O</O <O</O เมื่อมีคนในหมู่คณะได้ดิบได้ดีออกนอกหน้า<O</O คนดีจริงตื่นเต้นสนใจใคร่อยากฟัง อยากรู้ว่าประสบความสำเร็จได้อย่างไร จะได้เอาเป็นแบบอย่าง<O</O คนดีเทียม ไม่ฟัง รอให้จบเร็วๆ แล้วพยายามเบี่ยงประเด็นให้มาเป็นเรื่องความสำเร็จของตนแทน<O</O <O</O เมื่อต้องเจรจาปราศรัยต่อผู้คนมากมาย<O</O คนดีจริงเจียมเนื้อเจียมตัว เพราะเกรงว่าตนยังไม่ดีพอ ยังมีข้อบกพร่องอันใดอยู่ แต่ก็สามารถทำได้<O</O คนดีเทียม ยินดีอย่างยิ่งและสามารถพูดได้มากมายโอกาสทองมาแล้ว คนฟังชื่นชมว่าเขาพูดดีพูดเก่ง<O</O <O</O เมื่อต้องทำความดีอย่างไม่มีคนเห็น<O</O คนดีจริงดีสิ ได้ทำโดยไม่ต้องเปิดเผยตน แสดงตนว่าทำแต่ไม่ให้ใครรู้ว่าตนเป็นใครก็ดี อิสระดี<O</O คนดีเทียม ไม่สนใจ ไม่มีประโยชน์ หาแต่ความดีที่คนมองเห็น แล้วประกาศให้ทราบว่าตนคือใคร <O</O เมื่อต้องทำดีแต่อาจต้องเสียสละตน<O</O คนดีจริงเป็นโอกาสทองแล้ว เพราะคนไม่ค่อยแย่งกัน แล้วพิจารณาตัดกิเลส สละเท่าที่ตนทำได้<O</O คนดีเทียม ไม่ได้ ต้องได้สิ่งแลกเปลี่ยนก่อน แต่จะทำให้แนบเนียนราวกับว่าตนไม่ต้องการสิ่งใดๆ
เมื่อต้องการแสดงความสามารถของตน คนดีจริง ระมัดระวังตนว่าจะมีคนมาเกาะเป็นที่ยึดจนขาดอิสระ จนคนเหล่านั้นอ่อนแอไร้ปัญญา<O</O คนดีเทียม ยินดีแสดงให้ประจักษ์ให้คนมาพึ่งเกาะตนเท่านั้น ผูกขาดให้อยู่กับตน ไม่ให้ปัญญา<O</O <O</O เมื่อออกปากโฆษณาว่าจะทำอะไรให้แก่มวลชน<O</O คนดีจริง ต้องทำให้ได้สำเร็จตามนั้น แม้นว่าทำสำเร็จแล้วมวลชนจะเฉดหัวเราไป เพราะหมดหน้าที่ <O</O คนดีเทียม ทำเท่าที่ทำได้ ขาดไปไม่เป็นไร ดีสิ ขาดไว้บางส่วน จะได้ให้คนมาหาเราอีกเรื่อยไป<O</O <O</O เมื่อมีการขัดแย้งกันทางความคิด<O</O คนดีจริงหาข้อความจริงว่าตนคิดถูกจริงไหม พุ่งความสนใจที่เนื้อหาสาระที่ถกไม่สนใจตัวบุคคล <O</O คนดีเทียม เอาแต่โจมตีจุดอ่อนข้อด้อยส่วนบุคคล ไม่สนใจเนื้อหาสาระที่อีกฝ่ายนำเสนอ<O</O <O</O เมื่อผิดพลาดไปแล้วถูกจับได้ไล่ทัน<O</O คนดีจริง กลับมาในมาดใหม่ เหมือนเป็นคนใหม่ และเก่งกว่าเก่าอยู่เรื่อยๆ เพราะเอาไปปรับปรุงตัว<O</O คนดีเทียม ก็ทำตัวเหมือนเดิม แต่อาฆาตคนที่จับได้ไล่เราทัน และพยายามตามราวีคนที่ทำร้ายตน <O</O เมื่อต้องทำงานส่วนตัวและช่วยคนพร้อมกัน<O</O คนดีจริงยอมให้งานตนเสียได้เพื่อให้งานช่วยคนสำเร็จก่อน สามารถแยกแยะบทบาทได้ชัดเจน <O</O คนดีเทียม เอาเป็นเงื่อนไข
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> รูปอะไรคะ?
สัจธรรม เมื่อปรากฎที่ใด ยุคใดสมัยใด บุคคลใดจะกล่าวออกมานั้น ไม่เคยแปรเปลี่ยน เสมือนกิเลสในจิต ถ้ายังมีอยู่เมื่อใด ก็ต้องวนเวียนอยู่ในวัฏฏะ และปรากฏออกมาให้เห็นอยู่เสมอ ผมจะน้อมนำไปปฏิบัติในหลักการเปรียบเทียบนี้ เพราะตนก็ยังเป็นคนดีเทียมอยู่มาก แต่คนดีเทียมอย่างผมอยากจะเป็นคนดีจริงๆให้ได้สักวันครับ ขออนุโมทนาสาธุ และขอขอบคุณมากครับ กับ คนขายธูปที่นำธรรมะดีๆมาให้มีสติอยู่ในตน และ ตรวจสอบตนเองอยู่อย่างสม่ำเสมอครับ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ
อารมณ์ อวิชชา มิจฉา กิเลส อารมณ์ แก้ง่ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆได้นิดเดียว ตั้งสัจจะ มุ่งมั่น ตั้งใจจริง ด้วย อิทธิบาทสี่ ปลูกฝังจิตใจ ในตัวเอง ด้วย พรหมวิหารสี่ ปฎิบัติต่อผู้อื่น ด้วย สังคหวัตถุสี่ จาก..ควบคุม กำหนด บัญญัติ..สู่..ปรมัตต์ อัตโนมัติ ธรรมชาติ ย่อมได้ง่ายๆๆๆๆๆๆในที่สุด (||) (||) (||) (||) (||) (b-hmm) (b-hmm) หยิน หยาง ร้อน เย็น ดำ ขาว ย่อมอยู่ร่วมกันเสมออย่าง คิดบวก <!-- / message --><!-- edit note -->
วิธีเปิดตาที่สามอย่างปลอดภัยขอให้ปรึกษาอาจารย์อาชวินครับ เพราะท่านจะชำนาญและช่วยเราให้ปลอดภัยจาก "เทวบุตรมาร" ได้ (b-flower) (b-flower) (b-flower)